Quantcast
Channel: Ayarafun Factory
Viewing all 60 articles
Browse latest View live

พาทัวส์งาน Maker Faire Tokyo 2015 ตอน 3 : โซนดนตรี กับงาน Creative

$
0
0

เอามาต่อกันเลยครับ เมื่อวานคงตาแฉะไปแล้ว กับการดูรูป ผมบอกได้เลย มันไม่เท่ากันที่ไปสัมผัสนะครับ มันเป็นบรรยากาศ แค่รูปกับคำบรรยายนะครับ

มาถึงโซนนี้เป็นโซนสุดท้ายของงาน maker faires แล้วล่ะครับ โซนมิวสิคครับ เดินได้ มั่วมาก ดูขนาด hall แล้วกันครับ มันงาน impact แต่ของแบบทั้ง hall นะครับ เดินอย่างไงก้อไม่หมด

1438908587-MakerFaire-o

โซนดนตรี

เป็นสิ่งประดิษฐ์ ที่จริงผมชอบนะ ทำเครื่องดนตรี แต่ว่า ผมเล่นไม่เป็น เดินมาโซนหน้าจะเป็นงานของ animatronic รับ โปรแกรมให้หุ่นยนต์สองตัวนี้ เล่นกีตาร์ครับ

กำลังโปรแกรมอยู่เลย

อันนี้รองเท้า แต่มันสร้างเสียงดนตรีได้เหมือนกันครับ ตัวรองเท้าใส่ sensor อ่านการเคลื่อนไหว ไว้นะครับ แถมๆๆ ติด LED เปลี่ยนทั้งแสง และ เสียงเลย

มี app ด้วยครับ ดูจากโปสการด์เล็ก จะเดาได้ว่ามันใช้ cortex m3 กับมี bluetooth แน่นอน

น่าเอามาใส่เข้าซอยบ้านจริงๆ

งานต่อไป แปลกอีกเหมือนกันครับ เรียกว่า Flame Manipulator ครับ เขาจำลองเปลวไฟ

โดยใช้โปรเจคเตอร์ กับ ควันครับ

ซึ่งๆ ผลลัพท์ นอกจากไฟตรงหน้าแล้ว ยังมีเปลวไฟ ขึ้นที่ฉากรับด้วย สร้าง dynamic ของเปลวไฟ ทำยากนะ แต่ถ้ามี plugins น่าจะง่ายล่ะ

TSK กับ Touchsensor Keyboard ทั้งบาง และ หวานสุดๆ

อันนี้เรียกว่า CUSTOM MIDI CONTROLLER ตามชื่อเลย

เป็นพวก knot กับ slide ที่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ครับ

ทุกอย่างเป็นโมดุล จับเสียบได้ และมีไฟ LED ทุกอัน

การใช้งาน ประมาณนี้ครับ ใช้ทำ Effect ให้โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

ใช้ปรับการสังเคราะห์เสียงครับ ปุ่มไฟ ทำให้ดูล้ำไปอีก

งานมิวสิค นอกจากเสียง ต้องมี Visual หรือ ภาพวีดีโอด้วย เขามาโชว์ให้ดู สร้างภาพวีดีโอสด จากโปรแกรมทำอย่างไง

พวกเครื่องดนตรีแบบเครื่องสายก็มีครับ

หนีมาโซนนี้ ยังเจอหุ่นยนต์ มาเล่นเพลงให้ฟังอีก

สองตัวช่วยกันตัวนี้ตีกลอง

อันนี้เป็นเครื่องดนตรีเช่นกันครับ ตัว MagicFlure เป็น MIDI Controller ครับ ต้องมี โปรแกรมเอาโน็ตไปใช้อีกที่นะครับ

ต้นแบบ หรือ ข้างในมันจะหน้าตาแบบนี้ล่ะ

หน้าตาประมาณนี้ เป็นไนลอนครับ

เล่นกันเป็นวงดนตรีเลยครับ

ส่วนโปรแกรมสังเคราะห์ เขาบอกว่าเขาใช้ raspberry pi ใส่ STK ว่าจะกลับมาลองทำเล่นบ้าง

กีตาร์ ก้อมี คนเล่นไม่อยู่

หนุ่มคนนี้ ทำกีตาร์จาก ทุกอย่างที่หาได้ ซึ่งเล่นเป็นเพลงด้วยนะ

กีตาร์แบบ DIY ครับ เอามาให้ดูเลย ตัดอย่างไง

ทำจากไม้แบบนี้เลย

คุณลุงแก เอาเครื่องดนตรีไม้ มาให้เราดูกัน

เครื่องดนตรีแนวล้ำๆ เล่นกับอากาศก้อมีครับ แต่เล่นยากอ่ะ ขอบอกเลยไม่เป็นเพลง

ส่วนคุณพี่คนนี้เขา เอา keyboard สร้างจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่สังเคราะห์เสียงได้

แถมท้าย Craft และ Design

เรียกว่า Marbie Machine ครับ ลูกเหล็กวิ่ง แบบไม่รู้จบ เขามี DIY ให้เราไปทำกันเอง

FabCafe เอารถทามิย่า ที่ออกแบบบอดีขึ้นมาใหม่

โซนนี้จะมีกลุ่ม Craft ครับ เอาพวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาทำเครื่องประดับ ดูเนิร์ดมาก ไม่กล้าซื้อกลับเลย ในบ้านผมก้อมี

ดูๆบ้านหม้อเราก้อมี แต่ไม่มีใครทำ

งานแนวโมเดลครับ คุณพี่แก ทำงานละเอียดมากครับ

ออกแนว streampunk แต่ออกแนว anime ญี่ปุ่นด้วย

นาฬิกา Sentience Watch นาฬิกาแบบแยกเข็ม เข็มใครเข็มมัน งานออกแบบเรียบหรูมากๆ

มาหลายรูปแบบ

เอาล่ะครับบบ จริงยังไม่ครบทุกบูธ นะครับ แต่เป็นส่วนใหญ่ๆ ที่เห็นในงาน makerfaires ปี 2015 ครับ หวังว่า เมกเกอร์ชาวไทย จะได้ไอเดีย กับได้มีแรงบรรดาลใจ สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์กันต่อไปนะครับ


The Silicon Valley of Hardware and the Maker Movement

$
0
0

shenzhen2

shenzhen

วีดีโอ สารคดีจาก WIRED UK เล่าถึงประวัติของเมืองเซินเจิ้น จากเมืองประมงเล็กๆกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต, จากประชากรเพียงแค่ 300,000 คน ตอนนี้มี มากกว่า 15 ล้านคน (update from friend’s shenzhen) ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา หัวข้อรวมไปถึง กฏของ Moore’s,

การละเมิดลิขสิทธิ์ ขอบเขตบางของลิขสิทธิ์ , การเพิ่มขึ้นของกระแส Maker Movement และ งาน Maker Faires, และ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ Hardware แปลกใหม่ ชมวีดีโอข้างล่าง หรือ จะกดดูจาก playlist ที่นี่.

ใน episode แรก เราจะพาไป Huaqiangbei เมืองการค้าที่ขนาดใหญ่ และ คุยเรื่อง กฏของ Moore’s และ ผลกระทบทางด้าน Software vs hardware development ก่อนที่จะพบกับ HAX, กลุ่มของ Accelerator ทางด้าน Hardware เราจะเริ่มสัมผัสเมืองที่ Unique และเต็มไปด้วยสีสันแห่งอนาคต

ใน episode ที่สอง กระแส Maker movement  มีผลอย่างไรกับ ศูนย์กลางการผลิต อย่าง Shenzhen บ้าง และทัศนคติของเมือง ที่มีต่อ opensource hardware ที่ต่างจากทางฝั่งตะวันออกอย่างสุดๆ 

 

ในตอนที่สามจะเล่าถึง วิวัฒนาการของ “shanzhai” หรือ  พัฒนาของการผลิตสินค้าลอกเลียนแบบ ซึ่งกระบวนการมันพัฒนาจนได้สร้าง ecosystem  เราจะพาไปดูเบื้องหลัง เบื้องลึกของธุรกิจเหล่านั้น

ในตอนสุดท้าย Shenzhen กับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพเมือง ที่เกิดเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ “shazhai” ที่เติมโตเร็วเกินพิกัด

 

ที่มา : adafruit

เล่าอาการแปลกๆ และ แนวทางการซ่อม อาการวิ่งกระตุก ของ 3D Printer

$
0
0

3D Printer ช่วงนี้ ผมว่าไปไหนมาไหน ก้อจะได้ยินคำนี้ และ หลายๆคน ก้อสนใจอยากมีไว้ มันสร้างจิตนาการณ์ ออกมาได้จริง ทางผมเอง มี 3DP มานานแล้ว เอามาทำกล่องใส่อุปกรณ์นี้ล่ะครับ ตอนนี้มีด้วยกัน 2 เครื่อง  FlashForge Dreamer  ซึ่งเป็นเครื่องแรกเลย ไม่ได้ทำขึ้นมาเอง ตามแนวทางของเมกเกอร์ อยากจะใช้งานเลย ไม่อยากเรียนรู้อะไรมากครับ ซึ่งมันก็ตอบโจทย์ พิมพ์อะไร ต่ออะไร ออกมาได้อย่างรวดเร็ว และ ผมเองก็หัดจูน หัดแก้ไข ปัญหาด้วยตัวเอง อีกเครื่อง Dreamer Overlord Pro เครื่องที่โดนทางผมโม ไปเกือบ 30% เครืองนี้เพิ่งมาใช้งานได้ ตอนแรกที่มันทำงานนะครับ งานแย่กว่า FlashForge เยอะมาก แต่ตอนนี้อยู่ในระดับโอเคแล้วครับ

ในระยะหลังๆ เครื่อง FlashForge เริ่มมีปัญหานะครับ  เครื่อง 3D Printer ผมมีอาการวิ่งแกนใน X slip และ หลุด step อาการเป็นดังวีดีโอ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปเครื่องตัวเองนะครับ)

เครื่อง 3d printer ที่ผมใช้เป็นรุ่น flashforge dreamer ใช้มานาน เป็นเวลา 2 ปีกว่าๆแล้ว แต่อาการมันเพิ่งมาเกิดช่วงปีที่ 2 นี้ล่ะ แรกๆมันเป็นๆหายๆ แต่ในช่วงหลังมันถี่มาก ตัวอย่างชิ้นงานจริง  ตัวเครื่องมันเองไม่เคยมีอาการเลยครับ flashforge dreamer ไม่ค่อยจะเจออาการเสียสักด้วยครับ เวลาเสียผมลอง Search หาแนวทาง ไม่ค่อยเจออะไร

IMG_20160705_202415

ถ้าเพื่อนๆ เห็นอาการแบบวีดีโอ จะวิเคราะห์สาเหตุเป็นอะไรได้บ้างล่ะ ผมลองแยกวิเคราะห์ สาเหตุที่น่าเป็นไปได้

  1. ชุด Slide Guide สกปรก มีสนิมเกาะ
  2. สงสัย Drive อาจจะเสื่อมหรือพัง
  3. มอเตอร์มีปัญหา ติด ขัด เลย กระแสไม่พอ
  4. Power Supply มีปัญหา

แนวทางการทดสอบ

  • ผมสงสัย 2 อย่างแรกที่น่ามีปัญหา slide guide กับ power supply โดย Slide Guide ผมสงสัยว่าแกนไหนมันสกปรกมีสนิมเกาะไหม จึงจัดจารบีทาเข้าไป 1 ชุด และดูแกน X แกน Y ใน ตำแหน่งที่มันชอบ หลุดบ่อยๆ มีสนิม หรือป่าว ได้ลอง unlock ลากชุดหัว Nozzle ไปมาในระยะนั้น จนรู้สึกว่า ที่จริงจุดอื่นมันยังฝืดกว่า
  • ส่วน Power Supply ถ้าจ่ายไฟไม่พอ ต้องมีอาการไฟตก หรือดับบ้าง ผมจึงได้ต่ออ่านไฟจาก voltmeter
  • ตอนนี้แรกอาการหายไป แต่อยู่ดี มันก้อกลับมาอีก ผมนึกในใจ นี้เรากำลังพบกับ สนิมผีใช่ไหมนิ หรือว่าต้องจุดธุปก่อนใช้ ผมสงสัยมาก นั่งดูไฟจาก power Supply ยังแสดงค่า 24 โวลต์ ตลอดเวลา และ ช่วงที่มีอาการ ไฟก็ไม่ตก ไม่วูบ แต่อย่างใดครับ check ความร้อน มอเตอร์ มันปกติจับได้ แถม ผมเอาใช้พัดลม ฮาตาริ มาเป่าตรงๆเลยด้วย แถมมอเตอร์ไม่ร้อน แต่ยังกระตุก นี้มันผีหลอกชัดๆ
  • มาลองคิดสาเหตุอื่นอีก Stepper Driver มันเสื่อมหรือป่าว บอร์ดทาง flashforge มันใช้ drive ของมันเอง ทางผมไม่อะไหล่ ผมจึงทดสอบได้แค่ สลับกันเอง ระหว่างแกนอื่น ปรากฏ มันก้อยังเป็นที่แกน X มันมีสนิมผีอะไรว่ะ และเป็นที่ตำแหน่งเดิม
  • ในตอนนี้ สิ้นหวังแล้ว ตอนแรกคิดว่า คงต้องเปลี่ยนบอร์ดแล้ว และ รื้อเอา slide guide แกน x ออกมาทำใหม่หมดสักแล้วครับ
  • วิธีการแก้ไข เบื้องต้น ผมรู้แค่ว่า ถ้าขยับไปทางฝั่งซ้ายแล้วจะมีปัญหา เวลาพิมพ์งาน ผมจึงเอาชิ้นงานไว้แค่ฝั่งขวา มันก้อพิมพ์ เล็กๆน้อยๆได้คับ

แต่เหมือนอะไรดลใจ ให้ลอง search ว่า “flashforge axis x slip” เลยได้เจอวีดีโอข้างต้นนี้ล่ะครับ อาการคล้ายๆกันในวีดีโอแรก เครื่องในวีดีโอ เป็นรุ่น creator ครับ แต่เครื่องผมเป็น dreamer นะครับ คนล่ะรุ่น เลยไม่แน่ใจ แต่ได้ keyword ต่อไปว่า มันเรียกว่าอาการ “X-Axis stepper motor wiring harness” เลยมาเจอว่าเครื่องของ Makerbot ก้อเป็นแบบเหมือนกัน อาการแกน x สะดุด

เริ่มมาความแนวทาง มีคนเป็นอะไรคล้ายๆ โดยในวีดีโอได้บอกว่า “หาสาเหตุทางกลไกไม่เจอเหมือนกัน? แต่เขาเจอจาก forum ว่าถ้าเป็นอาการนี้ อาจจะเกิดจากสายไฟ มอเตอร์ เสียหาย หรือ อาจจะตึงไป ให้แก้ โดนต่อสายไฟให้ยาว แล้วเอาออกจากช่อง”  หาา ผมว่ามันไม่จริงมั่ง แต่มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลองเปลี่ยนทุกอย่างแล้ว ลองเปลี่ยนสายไฟอีกอย่างแล้วกัน ประกฏว่ามัน หายครับ

เรามาวิเคราะดีกว่า ทำไมเปลี่ยนสายไฟ ถึงหาย 

ถ้าดูจริงแล้ว สายไฟมอเตอร์ กับ สายไฟของสวิตส์มันอยู่ใกล้กันเลยครับ มันมีความเป็นไปได้ที่ Back EMF ขนาดสูง จะรบกวน ผมเองได้แต่เดา เพราะไม่มีเครื่องมือวัด สายไฟตึง ไม่น่าจะเกี่ยว

แต่ตอนนี้ flashforge dreamer มันพิมพ์ได้แล้วครับ เอาเป็นว่าใครเจออาการมอเตอร์วิ่งแปลกๆ มีสายไฟอีกอย่างที่เป็นไปได้ อย่างพึ่งรีบเปลี่ยนบอร์ดใหม่กันนะ

13608231_1350549101626552_1165795913_n

ติดตั้ง ESP32 บน Arduino Core

$
0
0

ช่วงนี้กระแสสุด Hot ในโลก Embedded น่าจะเป็นการเปิดจำหน่ายของชิป ESP32 ที่รุ่นต่อจาก ESP8266 เป็น SOC ที่แบบ Dual Core มี WIFI และ Bluetooth 4.0 เพิ่มเติมมาด้วยครับ

สำหรับบอร์ด esp32 ตอนนี้หลายคนคง เริ่มอยากตามหาแล้ว บอกได้เลยว่า เป็นโชคดีมาก ในไทยอย่าง maker asia กับ gravitech ร่วมกันผลิตและจัดจำหน่ายอยู่ครับ เป็น บอร์ด nano32 ซึ่งเป็นบอร์ดแรกของโลกเลยนะครับ ที่จัดจำหน่าย ใครอยากได้ต้องรีบนะครับ

เชิญไปสั่งจองได้ https://www.gravitechthai.com/product_detail.php?d=1470

Nano32-Board-640px

ทางเราไม่ได้รอช้า รีบจัดแจ้งหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อเลยว่า จะเอาเล่นได้อย่างไง โชดดีที่ 2 วันที่แล้ว ทาง Github ของ Espressif เองเลย เปิดให้โหลด arduino-esp32 ให้ไปทดลองได้แล้ว จะรออะไรล่ะ ใครมีบอร์ดแล้วยังไม่ได้ทำไฟกระพริบ จัดกันไปครับ

capture-20161007-011056

วิธีติดตั้งทางผมเอามาจาก Github  ของทาง Espressif เลยครับ วิธีนี้คงเป็น การใช้งานแบบชั่วคราวครับ  ส่วนแบบสมบูรณ์ รอทางเจ้าของเขา update ดีกว่า

วิธีการติดตั้ง

  • ติดตั้ง Arduino IDE เวอร์ชั่น 1.6.9 ขึ้นไปนะครับ
  • ไปที่ directiory ที่เก็บของ arduino ide
  • จากนั้นพิมพ์ คำสั่งตามภาพ

capture-20161007-011406

  • ยังไม่จบ ติดตั้ง Tools พวก คอมไพล์เลอร์ กันต่อ ในเครื่องต้องติดตั้ง python 2.7.8 ด้วยนะครับ

capture-20161007-012222

อันล่ะถึงเวลาทดลอง เมื่อเปิดเข้ามาให้เปิด ดูที่ tools จะพบบอร์ด esp32dev ล่ะครับ และ มีตัวอย่างที่ใช้งานมาด้วยครับ น่าจะเป็นตัวอย่างเดียวกับที่ใช้ใน esp8266

esp32_arduino จากนั้นลอง เปิด blink ไฟกระพริบดู คอมไพล์ดูประกฏว่าไม่ผ่าน อันนี้
capture-20161007-012657

ตาม error เขาบอกว่า esptool.py เรียกหา serial ไม่เจอ ผมไม่แน่ใจ แค่คอมไพล์จะเรียก esptool ทำไมเหมือนกัน แต่ อย่างไงเราก้อใช้ครับ เราเลยจัดการแก้ไขส่วนนี้ก่อน โดยการติดตั้ง pyserial เข้าไป

capture-20161007-014115

เอาล่ะ ลองใหม่อีกรอบ ตอนนี้ใช้งานได้แล้วครับ

capture-20161007-014106

ตอนนี้ ที่ทดลอง arduino esp ตัวแรกนี้ ยัง port มาไม่ครบนะครับเพิ่งทำงานได้ แต่ได้เห็นว่า มันมีเห็นแสงสว่างนิดๆล่ะว่าจะใช้งานใน arduino ได้ในไม่ช้าครับ

รวบรวม ผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์ ที่ดีที่สุด

$
0
0

แผ่นวงจรพิมพ์ หรือ บอร์ดวงจร ที่ช่วยให้เราผลิตบอร์ดต้นแบบได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะเป็นเรื่องยากที่จะหาผู้ผลิต ด้วยตอนนี้ ฐานการผลิตขยายออกไปสู่ต่างประเทศ เรามารู้จักผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ที่นิยม และ รีวิวการใช้งานกันครับ การออกแบบแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ แผ่นพีซีบี สำหรับ เมกเกอร์และนักทดลองอิเล็กทรอนิกส์หลายๆท่าน น่าจะมีประสบการณ์กันมาบ้าง การทำต้นแบบเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะก่อนที่เราจะทำการผลิตจริง เราต้องมั่นใจก่อน ว่าแผ่นวงจรเราจะใช้งานได้ ลายวงจรครบ footprint ถูกต้อง บัคกี้ง่าย

ก่อนอื่น เรามารู้จักแผ่นวงจรพิมพ์กันก่อนนะครับ อาจจะมีหลายชื่อนะครับ บางที่เรียกว่า บอร์ดวงจร แผงวงจร หรือ เรียกทับศัพท์ว่า แผ่นพีซีบี มันคือแผงที่มีลายทองแดงใช้สำหรับต่อวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อประกอบเป็นวงจรแทนการต่อวงจรด้วยสายไฟ ที่ซับซ้อน เมื่อเราออกแบบวงจร หรือ ทดสอบวงจรแล้วว่าทำงาน แผ่นวงจรจะช่วยให้เราสร้างบอร์ด ด้วยวิธีการผลิตด้วยง่าย ไม่ต้องมาต่อสายไฟ ให้มีการผิคพลาดเยอะ แต่การสร้างแผ่นวงจรพิมพ์ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ประสบการณ์ และ ใช้เวลา ใช้เงิน เพราะว่า การผลิตบอร์ด จ้างโรงงานผลิต กว่าจะเห็นบอร์ดที่ใช้งานได้ และ ขายได้สักบอร์ด บางที่คนออกแบบ อาจจะต้องทำต้นแบบมาแล้วหลายสิบครั้ง  ในรอบนี้เรามารู้จัก ผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ที่นิยมๆ ใช้ทำต้นแบบสำหรับเมกเกอร์ และ วิธีการส่งไฟล์ไปผลิต กัน ถือว่าแชร์ประสบการณ์ กันแล้วกันนะครับ ผมว่า เดี่ยวนี้มีหลายเจ้ามากขึ้น

EasyEDA PCB Prototype

เราจะรู้จัก EasyEDA ในนามของ โปรแกรมออกแบบวงจร EDA แบบออนไลน์ ที่สามารถออกแบบวงจร จำลองการทำงานของวงจร  และ ออกแบบลายวงจร ผ่านเวปได้ ในความเป็นจริงแล้ว EasyEDA เป็นผู้ผลิต PCB ต้นแบบเช่นกัน EasyEDA เสนอการทำต้นแบบแผ่นวงจรพิมพ์ที่ราคาถูก จำนวนไม่ต้องเยอะ ส่งเร็ว และ ความถูกต้องสูง เหมาะกับวิศวะอิเล็กทรอนิกส์ และ นักทดลองอิเล็กทรอนิกส์

EasyEDA_Prototype

EasyEDA โดดเด่นด้วยช่วยให้ผู้ออกแบบแผ่นวงจรพิมพ์ คิดจากคอนเซ็ปต์ไปสู่กระบวนการผลิตแผงวงจร ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด และ ระบบโปรแกรมที่รันบนเวปดูเป็นมืออาชีพ จำลองการทำงานได้ ทำให้ลดการลองผิค ลองถูก ประหยัดเวลา และ ลดโหลดงานที่ยากๆ ในการออกแบบแผงวงจรลงไปได้ยัง และ ยังมีระบบ ประเมินราคา PCB แบบออนไลน์ ช่วยให้เราประเมินราคาได้อย่างรวดเร็ว แค่ใส่ จำนวนเลเยอร์, จำนวนแผงวงจรที่ผลิต, ความหนาของแผ่นวงจร, สี , ขนาดความกว้างและความยาว ระบบจะคำนวนราคาให้อัตโนมัติ อย่างเช่น ถ้าเราจะสั่งทำ 10 ชิ้น สำหรับบอร์ดขนาด 50mm x 50mm ราคาจะประมาณ 352 บาท (9.8 USD)  หรือ สั่งทำ 10 ชิ้น สำหรับ บอร์ดขนาด 100mm x 100mm ,ราคาจะประเมิน 634 บาท (17.6 USD) ราคานี้ยังไม่รวมค่าส่ง แต่รวมค่า solder mask และ เคลือบแผ่นวงจรเป็นสีเขียวแล้วนะครับ ผมว่า มันถูกสุดยอดมากๆ

นอกจากนี้ ยังมี Gerber Viewer  ของ EasyEDA ที่เปิดดูไฟล์ gerber ได้เกือบทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Altium, Kicad, Eagle, Diptrace, Pads, P-CAD อื่นๆ เมื่อ check ทุกเลเยอร์เรียบร้อย เรายังกดส่งการออกแบบ เข้าสู่ระบบการผลิต design for manufacture (DFM) ได้เลยอีกด้วย

Oshpark

OSH Park เป็นชุมชนของนักออกแบบแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) และมีบริการผลิตแผงวงจร หรือ  PCB ที่มี คุณภาพสูง ,บอร์ดแบบ lead-free หรือ ไร้สารตะกั่ว ที่สำคัญผลิตในอเมริกา

oshpark

แผ่นวงจรพิมพ์ ของ OSH Park ถ้าสั่งมาแบบปกติ จะได้ PCB สีม่วง และ ขาชุปทอง ราคาของบอร์ดคิดเป็นตารางนิ้ว และ ค่าส่งฟรี แต่ทาง Oshpark ก็มีบริการแบบส่งด่วน และ ผลิตด่วน ซึ่งราคาจะแตกต่างกันตามระยะทาง ระยะเวลาการผลิต ถ้าอยู่ไทย สั่งด่วน ก็บวกเพิ่ม และ ส่งด่วนแบบไกล บางที่ค่าบริการอาจจะแพงกว่าค่าบอร์ดอีก ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ตามลิงค์นี้  PCB order service page และ PCB shipping info page  ใครอยากได้ PCB ชุปทอง พอรอได้ ลองสั่งดูครับ

Seeedstudio

SeeedstudioPCB

เราจะรู้จัก Seeedstudio ในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบอร์ดทดลอง และ ชุด kit แต่ทาง seeed เองก็มีบริการผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ ต้นแบบด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าคุณนำชุด kit ของ Seeed เองมาใช้ในการทำต้นแบบ ยิ่งง่าย เพราะว่า มันจะมี part number ของ seeed เองที่เอาไปใช้ ออกแบบวงจรได้เลย

ทาง Seeed มีบริการผลิตโปรดักส์แบบครบวงจรอีกด้วย โดยทาง Seeed ออกแบบบริการให้สำหรับ เมกเกอร์ กับ นัก hobby ที่อยากจะผลิตต้นแบบ จำนวนน้อย 1-1000 ชิ้น แค่คุณเอาต้นแบบมา คุยกับทาง Seeed เขาจะใช้ทีมวิศวกรทางเขาช่วยออกแบบ และ ช่วยจัดหาชิ้นส่วน จาก supply chain management ในระบบเขา และใช้การผลิตแบบ agile ที่ช่วยความผิคพลาดในการผลิต ถ้าสนใจจะสั่งทำ PCB หรือ บริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น บริการประกอบแผงวงจร ทำ Stencil เข้าไปดูได้ที่ Fusion page

Seeedstudio ให้บริการผลิตภัณท์ Open source Hardware และ รับจ้าง ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ แบบมีจำนวนไม่มาก โดยคุณภาพเดียวกับโรงงานเขา และ ผลิตได้เร็ว มีความรู้เรื่อง supply chain

Express PCB

ExpressPCB

ExpressPCB ให้บริการผลิตแผงวงจรในอเมริกาอีกที่หนึ่ง รับทำแผงวงจรแบบด่วนและราคาต่ำ รับทำแผงวงจรแบบ 2 เลเยอร์ และ 4 เลเยอร์ โดยมีบริการแบ่งออกเป็น 6 รูปแบบ : แบบ MiniBoards, แบบ Prototype,  แบบ 4 Layer Prototype , แบบมาตราฐาน, แบบ Production , แบบ 4 Layer  Production  ถ้าคุณใช้บริการ MiniBoard , คุณจะจ่ายประมาณ 41 USD สำหรับ 3 บอร์ด (รวมค่าส่งแล้ว) และ ผลิตในอเมริกา

ExpressPCB มีโปรแกรมออกแบบแผงวงจร ให้ใช้ฟรีอีกด้วย เป็นโปรแกรมออกแบบวงจร และ ออกแบบลายวงจร ใช้งานง่าย และ ไฟล์งานส่งเข้าโรงงานเข้าได้เลย

4PCB

โรงงานผลิต PCB ที่ใหญ่เป็นระดับ 3 ในอเมริกา , 4PCB ให้บริการผลิตบอร์ดวงจรแก่ลูกค้าที่ดีเยี่ยม และ คุณภาพที่เชื่อถือได้

4pcb

4PCB เสนอบริการแบบ สั่งทำด่วน เป็นบริการแบบมาตราฐาน ถ้าคุณสั่งทำ บอร์ดแบบ 2 เลเยอร์ ตอน แปดโมงเช้า คุณจะได้รับบอร์ดในช่วงเย็นวันนั้นทัน และ ถ้าคุณสั่งทำ บอร์ดแบบ 2 เลเยอร์ หรือ 4 เลเยอร์ ในวันศุกร์ บอร์ดที่สั่งจะถูกผลิตในช่วงวันหยุดทันที่

ถ้าสนใจบริการนี้ ทำตาม 4 ขั้นตอนี้ สามารถสั่งทำ PCB ได้เลย order your PCBs และ ทาง 4PCB มีโปรแกรมสำหรับออกแบบลายวงจรให้ใช้ฟรี และ โปรแกรมสำหรับตรวจงานไฟล์งาน ก่อนจะสั่งผลิตอีกด้วย ถือว่าเป็น มาตราฐานการบริการ ที่น่าสนใจ

วราพีซีบี (WARA PCB)

ผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ของไทยครับ หลายคนน่าจะเคยใช้บริการนะครับ มาตราฐานการผลิตสูงมาก คุณภาพไว้ใจได้ solder mask คมมาก เส้นทองแดงทนมาก เทียบกับเจ้าจีนที่เคยทำ คุณภาพงานของไทยดีกว่าเยอะครับ

ข้อดีของทางวรา ในการผลิต เราสามารถคุยกับช่างเทคนิด เป็นภาษาไทยได้ ไฟล์งานจะมีการผิคพลาด ยากมาก และ ระบบการส่งงาน ส่งได้ผ่านทางเวป และ ผ่านทาง email  และยังตรวจสอบสถานะ การผลิต จากเวปไชต์ได้อีกด้วย

ไมโครไลน์ (Microline PCB)

อีกผู้ผลิต PCB ในไทยนะครับ บริษัท ไมโครไลน์ รับบริการผลิต PCB  1 หน้า และ 2 หน้า เช่นกัน คุณภาพดี ไม่มีจำนวนขั้นต่ำนะครับ พวก solder mask และ เส้นทองแดงทนมากครับ

microline

สำหรับการติดต่อ ใช้ทางเมล์ และ ระบบทางหน้าเวป เช่นกัน ภายใน 6 ชม ทาง sell จะส่งใบเสนอราคากลับมาทันทีครับ

ความจริงตอนนี้ยังมีโรงงานผลิตบอร์ดวงจรอีกหลายที่มาก ส่วนมากถ้าอยากฝั่งอเมริกา ค่าส่งจะแพงครับ และ ใช้เวลานานกว่าจะได้ของ และ ส่วนในจีนก็มีอีกหลายที่เลย แต่ปัญหาคุณภาพมักไม่ได้ ซึ่งเราไม่ทราบเลยว่าเจ้าไหนดีไม่ดี ใครมีประสบการณ์ ใช้ของที่ไหน ก็ แชร์กันได้นะครับ

แจกกันไปเลย Node32s Pinout

$
0
0
แจกอีก สำหรับคนทำบทความ นะครับ แบบว่า เข้าใจว่า ลงทุนที่เดียวใช้กัน จนลืม แน่นอน ขาของบอร์ด Node32s นี้ compatable กันหมด  ทั้ง esp32 devkit ,nodemcu32s และ ตัวของไทย node32s เอาไปดูเป็น reference ได้เลย ทั้งหมดวาดด้วย Inkscape กับ Fritzing ช่วยกัน ไกด์สีของอุปกรณ์ที่ควรจะเป็น

NODE32S_pinout

และสำหรับ เมกเกอร์ที่จะเอาบอร์ดไปทำบทความ และ อยากได้ภาพประกอบสวยๆ เรามีภาพ Artwork ของบอร์ด Node32s แบบ HD ให้โหลดไปใช้ด้วยเช่นกันครับ ปล บอร์ด Node32s ของแท้ ตอนนี้ให้มองหาโลโก้สายฟ้า บนบอร์ดเลยนะครับ

node32_module

การใช้งาน Node32s บน Arduino IDE

$
0
0

เกริ่นกันก่อน

ผมรู้สึกว่าหลายคนยัง งง ว่าอะไร คือ Node32S

Node32s เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ที่มี WIFI โดยใช้ ESP32 จาก Espressif ซึ่งต่อยอดมาจาก ESP8266 รุ่นยอดนิยม ที่เพิ่มเติมส่วนของ Bluetooth Low-energy (BLE BT4.0, Bluetooth Smart) และ เพิ่ม GPIO ไปถึง 30 I/O และ แก่นประมวลผลหลักแบบ dual core เป็นครั้งแรกที่เราในโลกอีกแล้วที่เราจะได้ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ แบบ dual core ที่ราคาถูกกว่า 10 เหรียญ ในอนาคตคาดว่า ถูกลงไปอีก

ESP32_Pinout_a1_3

เอาล่ะครับ ผมว่าตอนนี้หลายคน คงจะมีบอร์ด ESP32 สักรุ่นอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็น Nano32 หรือจะเป็น ESP32 DevKit หรือจะให้ดีเป็น Node32s ของทางเราออกแบบเองก้อจะดีมากครับ สำหรับการพัฒนาโปรแกรมบน ESP32 ทาง Espressif  ได้เตรียม Tools ไว้แล้ว มากมายครับ และ หนึ่งในนั้นที่เราจะมาแนะนำให้เป็นขวัญ และ กำลังใจของเพื่อนๆก่อน คือ ใช้ Arduino ครับ

สำหรับ Arduino ในขั้นตอนแรกเราต้องปรับแต่งให้ Arduino IDE มีบอร์ด ESP32 Core สักก่อนครับ เนื่องจาก ESP32 เป็น core cpu จาก Tensilica ใช้คอมไพล์เลอร์ร่วมกับ AVR และ ARM ไม่ได้ครับ แต่ทาง Espressif ได้คอมไพล์เลอร์ไว้ให้เราแล้ว และในตอนนี้ Arduino ESP32 ยังใหม่มากครับ เพิ่งเปิดให้ใช้ไม่ถึงเดือนเลยครับ ของใหม่มากๆ และตอนนี้ยังมีการ update กันบ่อยมาก รายวันก้อว่าได้ครับ ทางผมแนะนำวิธีการติดตั้ง โดยตรงจาก Github กันเลยครับ

วิธีติดตั้งทางผมเอามาจาก Github  ของทาง Espressif เลยครับ

capture-20161007-011056

เตรียมซอฟท์แวร์ก่อนการติดตั้ง

  1. ติดตั้ง Git Command line ก่อน
  2. ดาวโหลด Python 2.7.x
  3. ติดตั้ง Arduino IDE

วิธีการติดตั้ง Arduino ESP32 CORE

  • สำหรับการติดตั้ง Arduino IDE เวอร์ชั่น 1.6.9 ขึ้นไปนะครับ
  • ไปที่ directiory ที่เก็บของ arduino ide ด้วยคำสั้ง CD…
  • จากนั้นพิมพ์ คำสั่งตามภาพ
mkdir hardware
cd hardware
mkdir espressif
cd espressif

capture-20161007-011406
  • จากนั้น clone โปรเจค arduino-esp32 จาก github ลงมาด้วยคำสั่ง

git clone https://github.com/espressif/arduino-esp32.git esp32

***** แต่ว่าถ้าคุณใช้คำสั่งนี้ไม่ได้ อีกทางเลือก download src mater มาลงใน directory hardware ก็ได้เช่นกัน แต่ไม่แนะนำนะครับ เพราะว่า ถ้าทาง github มีอะไร update จะ update เฉพาะบางส่วนไม่ได้

  • ติดตั้ง Tools พวก คอมไพล์เลอร์ กันต่อ ด้วยการพิมพ์

capture-20161007-012222

อันล่ะถึงเวลาทดลอง เมื่อเปิดเข้ามาให้เปิด ดูที่ tools จะพบบอร์ด ESP32 Arduino

  • ให้เลือกบอร์ด node32s ล่ะครับ
  • เลือก Port ที่เจอ node32s
  • Upload Speed “921600” แต่ถ้ามีปัญหา ลองล
    ดลงมาได้ครับ

 

node32

ลองดูที่ตัวอย่างที่ใช้งานมาด้วยครับ แต่ยังไม่มากครับ น่าจะเป็นตัวอย่างเดียวกับที่ใช้ใน esp8266

board2

จากนั้นลอง เปิด Example blink ออกมา แล้วกดคอมไพล์ดูครับ ถ้าขึ้น error ประมาณในภาพ  ให้ปิดโปรแกรม แล้วกลับไปติดตั้ง PySerial จากวิธีนี้ก่อน ติดตั้ง Python และ Python Serial
capture-20161007-012657

เอาล่ะ ลองใหม่อีกรอบ ตอนนี้น่าจะ คอมไพล์ผ่านแล้วครับ

capture-20161007-014106

สำหรับ Node32s ให้เปลี่ยน LED_BUILTIN จะอยู่ที่ขา 2 นะครับ เอาล่ะครับ แล้วลอง Upload เข้าไปใหม่นะครับ ถ้าไม่เจอปัญหาใดๆ จะขึ้นแบบข้างล่างนี้ล่ะ

capture-20161123-215134

สำหรับวิธีการ check ว่า บอร์ดเราคุยกับ คอมพิวเตอร์ได้หรือป่าวนะครับ ให้ลองเปิด Serial Monitor แล้ว เลือกความเร็วที่ 115200 ถ้ากด EN แล้วปล่อยจะขึ้น Message แบบในภาพนะครับ

g5503

capture-20161123-214935

และ ถ้ากดปุ่ม Boot ค้างแล้วกด EN แล้วปล่อย จะเข้าโหมด โปรแกรมครับ ซึ่งจะขึ้น Message แบบในภาพครับ

capture-20161123-215013

ถ้าในเจอปัญหาอะไรเกี่ยวกับการติดตั้ง ก็แจ้งได้ครับ ส่วนวันนี้ ลองเปิดตัวอย่างเล่นดูนะครับ ตอนนี้ โปรเจค ESP32 ยังอยู่ในช่วง Work in Progress ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะรวม

  • Bluetooth
  • Analog Input ( analogRead([pin]) )
  • Analog Ouptut (analogWrite([pin], [value]))
  • WiFi Server and WiFI UDP
  • Real-Time Clock
  • Touch-controller interface

แต่ Wifi ก็ยังใช้งานได้นะครับ แต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์เหมือน ESP8266 ที่มี Lib มากมาย แต่ตอนนี้ยังมีอะไรให้ลองใช้งานได้เยอะอยู่ครับ เดี่ยวทางเราจะค่อย Update ให้เมกเกอร์ชาวไทยตามกันทันแน่นอน

มาลองใช้ FreeRTOS ทำไฟกระพริบบน Node32s แบบเทพๆ กันดีกว่า

$
0
0

กลับมากันอีกแล้วครับ สำหรับบทความนี้ เราจะมาแนะนำให้รู้จัก FreeRTOS หนึ่งในความสามารถใหม่ ที่มากับ ESP32 เนื่องจาก CPU ตัวใหม่ใน ESP32 เป็นแบบ Dual Core และ ประสิทธิ์ภาพความเร็วถึง 240 MHz ผมสงสัยว่าเราจะใช้ความสามารถมาได้เต็มที่ได้อย่างไงนะ ปกติ เคยเขียนแต่โปรแกรม หนึ่ง Core ทำมันทุกอย่าง

ทาง Espressif ได้เตรียมตัวเรื่องนี้มาไว้อย่างเดียวเลยที่เดียว เขาได้เละ core sdk เดิม มาเป็น core ใหม่ ที่มาพร้อมกับ FreeRTOS เลย ซึ่งทำให้เราเปิด Task การทำงาน ขนานกันไปได้เลย ซึ่งการเขียนโปรแกรมแบบ  FreeRTOS ทำให้ใช้ความสามารถของ ESP32 ได้ดียิ่งขึ้น แต่อาจจะแลกมากับความซับซ้อนของการคิดโปรแกรม

FreeRTOS คือออะไร

FreeRTOS เป็นระบบปฏิบัติการสําหรับอุปกรณ์ Embeded ใช้ได้ในหลากหลายไมโครคอนโทรเลอร์ และยังเป็นโปรเจคโอเพ่นซอร์สอีกด้วย (Open Source) ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่ายและมีขนาดค่อนข้างเล็ก ภายใน เคอร์เนลของระบบประกอบด้วยไฟล์ภาษาซีเพียง 3-4 ไฟล์เท่านั้น รวมทั้งมีตัวอยางการออกแบบและการใช้งานให้ศึกษา ซึ่งใครสนใจ FreeRTOS เป็นอย่างไง ลองหาอ่านในเน็ทจะมีข้อมูลเยอะครับ เนื่องจากมีคนนำไปใช้ในไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูลอื่นก่อนจะมาอยู่บน esp32

โดยรวมสรุปความสามารถเด่นของ FreeRTOS ไว้ดังนี้

  1. มีโครงสร้างที่เล็กและง่ายต่อการใช้งาน
  2. การจัดการเวลาต่างๆ สามารถเลือกตั้งค่าได้ ทั้งแบบ Preemptive หรือ Cooperation operation
  3. ควบคุมทาสก์(Task)และสแต็ก(Stack) ได้ง่าย

ซึ่งทาง Espressif นำ FreeRTOS มาใส่ใน ESP-IDF หรือ ชุดพัฒนาของ ESP32 จึงทำให้ใน arduino esp32 มีความสามารถของ FreeRTOS มาด้วยเลย ซึ่งวิธีใช้ ไม่ได้ยากอะไรครับ ลองดู ตัวอย่างโค๊ดนี้ไปลองกันเลยครับ  ใครอยากรู้ลึกๆ FreeRTOS ใช้งานอย่างไง แนะนำให้เข้าไปอ่านที่เวปของ FreeRTOS

สำหรับบอร์ดที่ทางเราใช้เป็น Node32s ครับ ที่ภูมิใจ ไทยทำ และ ตอนนี้มีจำหน่ายแล้ว ที่ Gravitech Thai

ตัวอย่างนี้ ทางผมเปิด 2 Task สำหรับทำไฟกระพริบ ที่ความเร็วไม่เท่ากันครับ

View the code on Gist.


เล่นสนุกกับ Capacitive TOUCH บน Node32S (esp32)

$
0
0

หลังจากหายไปหลายวัน ตอนนี้ ESP32 มีการ UPDATE อีกแล้วครับ ตอนนี้น่าสนใจหน่อยครับ คือมันมีความสามารถทำให้ขาที่ต่อออกมา เป็น Sensor แบบสัมผัสหรือ Capacitive touch ได้ครับ ซึ่งอันนี้ ก้อเพื่งจากทดสอบสดๆ ร้อนๆเลยครับ อีกสักพักคงเป็นตัวอย่างใน Arduino ESP32 แต่ทางเราเอามาเปิดเผยก่อนนะครับ

Touch Sensor คือ sensor สัมผัส สัมผัสโดยตรง หรือ จะเป็นแบบไม่สัมผัมแต่เข้าใกล้ๆ ซึ่งข้างหลังนี้เป็นนิยามจาก datasheet โดยหลักการทำงาน มันจะใช้การวัดการเปลี่ยนของความจุไฟฟ้า หรือ Capacitive ซึ่งบางที่เราได้ยินเขาเรียกว่า cap sense

สำหรับบอร์ดที่ทางเราใช้เป็น Node32s ครับ ที่ภูมิใจ ไทยทำ และ ตอนนี้มีจำหน่ายแล้ว ที่ Gravitech Thai

สำหรับบอร์ดของ Node32s ขาที่เอามาทำเป็น Touch Sensor ได้ มี 10 ขา ดังภาพข้างล่าง

เราสามารถ ทำให้การ Touch เป็น Interrupt Event ได้ คือ ถ้ามีการสัมผัสให้กระโดดไปทำงานต่อคำสั่งเลย อันนี้ทางผมลองแบบง่ายๆ ต่อสายออกมาจาก PIN T0 หรือ ขา GPIO4 ครับ ซึ่งเราสามารถลากไปต่อกับ โลหะทีเป็นพื้นผิวใหญ่ จะเพิ่มพื้นที่สัมผัสได้ครับ และข้อดีอีกอย่างของ Capacitive touch มันทะลุ วัตถุได้ คือเราเอา แถบโลหะซ่อนไว้ใต้กระจก ยังทำงานได้ ถ้าจะทำ case กันน้ำ 100% ใช้วิธีนี้ ทำได้ไม่ยากเลย

อันนี้เป็น โค๊ด ตัวอย่าง

View the code on Gist.

เมกเกอร์แฟร์ ปี 2 ทำของมาอวด

$
0
0

ขอเชิญ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ  มาร่วมงาน และ พูดคุยกันในงานใหญ่ประจำปี Bangkok Maker Faires ปี 2 ในวันที่ 21-22 ม.ค. 2017 งานนี้ Workshop มากมี ผลงานเด่นดีมากหลายครับ งานนี้โชว์กันตั้งแต่เที่ยงยันดึก ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ

รายละเอียดงาน และ Highlight ในงาน(บางส่วน) และ อีกหลายส่วน ที่ยังไม่ยอมเปิดเผย 😀


สถานที่จัดหน้าห้าง The Street รัชดา แล้วพบกัน


รู้จักกับ ESP32 และ Node32s

$
0
0

แนะนำ Node-32s

บอร์ด Node32s เป็นบอร์ดที่นำ SoC อย่าง ESP32 ของบริษัท Espressif มาออกแบบเป็นบอร์ดพัฒนา โดย ESP32 เป็นไอซีที่พัฒนาเพิ่มเติมจาก ESP8266 ที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นไมโครคอนโทรลเลอร์ที่มีราคาถูก และ มี WIFI ติดมาด้วย แถมยังใช้ Arduino เขียนโปรแกรมได้ด้วย แต่สำหรับ ESP32 ตัวใหม่นี้ ยังเพิ่มความสามารถเข้าไปอีก มีการเชื่อมต่อ Bluetooth Low-Energy  (BLE, BT4.0, Bluetooth Smart) เข้าไปอีก และ แค่นั้นยังไม่พอ ยังมี GPIO ถึง 30 ขา ซึ่งใครเคยใช้ ESP8266 จะรู้สึกได้ ว่า GPIO มันน้อยไป (หรือเปล่าลูกพี่!) ซึ่งทางผมคาดว่า ด้วยกำลังของ ESP32 และลูกเล่นที่แอบซ้อน จะอยู่ในโปรเจค IoT และ Wearable หลายๆ โปรเจค ในไม่ช้า

ภาพรวมของ Node32s

  • ใช้ ESP-WROOM-32 จาก Espressif ซึ่งเป็น WiFi/BLE SoC (System On Clip)
  • Breadboard Friendly มีขนาดกว้าง 0.9″ วางบน breadboard จะเหลือข้างล่ะ 1 ช่อง
  • ใช้ USB2Serial ตระกุล FTDI ชิปเพื่อการโหลดโปรแกรมแบบอัตโนมัติ ความเร็วสูงสุดถึง 921000
  • JST 2mm Connector สำหรับเสียบแบตเตอรี่
  • มีวงจรชาร์จ Lithium Ion และ Lithium Polymer (1 cell) พร้อมทั้งไฟแสดงสถานะ
  • มีวงจร PTC Fuse ตัดกระแสไฟเกินที่ 500mA
  • 3.3V 600mA On-board Voltage Regulator
  • Push ฺButton Switch ที่ขา IO0 และ EN (Reset)
  • Crystal 32.768KHz เพื่อใช้เลี้ยงวงจร RTC
  • เหมาะสำหรับงาน พัฒนาต้นแบบ อุปกรณ์รูปแบบ Portable และ Wearable

นอกจากจะเป็น บอร์ดรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ ประสิทธิ์ภาพสูง ยังเป็นบอร์ดที่เหมาะกับ งาน Wearable และ Portable ที่กำลังเป็นที่สนใจในอนาคตอีกด้วย

สำหรับบอร์ดที่ทางเราใช้เป็น Node32s ครับ ที่ภูมิใจ ไทยทำ และ ตอนนี้มีจำหน่ายแล้ว ที่ Gravitech Thai  สั่งกันได้เลย

ภาพรวม ESP32

โมดุล ESP-WROOM32 ถือเป็นหัวใจหลักของ บอร์ด Node32s มาดูมันมีความสามารถอะไรบ้าง

  • สองแกน หน่วยประมวลผล Tensilica LX6
  • ความเร็ว สูงสุด 240MHz
  • แรมภายใน 520kB
  • WiFi transceiver B/G/N
  • Bluetooth  Dual-mode classic และ BLE
  • ช่วงไฟ 2.2 ถึง  3.6V
  • กินกระแส 2.5 µA (ในสถานะ deep sleep)
  • 32 GPIO
  • 10 ช่อง Capacitive Touch
  • 18 ช่อง Analog-to-Digital converter (ADC)
  • 3 ช่อง ของ SPI อินเตอร์เฟส
  • 3 ช่อง ของ UART อินเตอร์เฟส
  • 2 ช่อง ของ I2C อินเตอร์เฟส
  • 16 ช่อง ของ PWM
  • 2 ช่อง ของ Digital-to-Analog Converters (DAC)
  • 2 ช่อง I2S อินเตอร์เฟส
  • Hardware Accelerated Encryption (AES, SHA2, ECC, RSA-4096)

บอร์ด Node32s จึงได้ความสามารถของ ESP32 เหล่านี้มาทั้งหมด แต่เราคำนึงถึงการใช้งานแบบไร้สายเป็นหลัก เราจึงได้ออกแบบอุปกรณ์ภายใน บอร์ดให้ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ได้ และ มีวงจรชาร์จไฟแบตเตอรี Lipo เข้าไปอีกด้วย

โดย ขาหนึ่งขา จะมีความสามารถได้หลากหลายนะครับ ถ้าเราเลือกใช้บางขาเป็น ADC ไปแล้ว จะใช้เป็น GPIO ไม่ได้นะครับ รายละเอียดดังภาพข้างล่างนี้ครับ

GPIO สามารถใช้เป็นแค่ Input เท่านั้น: 34-39

พิน 34, 35, 36, 37, 38 และ 39 ไม่สามารถคอนฟิกส์ เป็น OUTPUT ได้ แต่สามารถ เป็น Analog inputs หรือ เป็นความสามารถอื่นได้ๆ ดังนั้น ขาดังกล่าวจะไม่สามารถ เรียกใช้ internal pull-up หรือ  pull-down resistors เหมือน GPIO อื่นๆ

Powering the ESP32 Thing

แหล่งพลังงานของ Node32s ได้มาจากสองแหล่ง คือ USB และ แบตเตอรี่ (LiPo) ถ้าจ่ายทั้งสองแหล่ง บอร์ดจะใช้ไฟจาก USB และ ชาร์ทไฟ LiPo ไปด้วยในตัว ด้วยกระแสประมาณ 400mA ซึ่งเป็นแรงดันที่ไม่ทำให้ช่องจ่ายไฟ USB อันตราย (เราสามารถออกแบบชาร์จกระแสได้สูงกว่านี้ แต่ USB ของคอมท่านอาจจะจ่ายไม่ไหวนะครับ)

เราสามารถสลับไฟจาก USB กับ Batt ได้ทันที่ เราถอดสาย USB บอร์ดจะสลับไปใช้ไฟแบต ทันที่ แล้วต่อแบตอีกครั้งจะกลับไปใช้ไฟ USB

ESP32 ทำงานช่วงไฟเลี้ยง 2.2 ถึง 3.6V. โดยปกติจะจ่ายไฟ 3.3V, และ I/O ของ ESP32 ไม่สามารถใช้ไฟ 5V ได้ (5V tolerant) เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยควรมีไอซีเป็น Buffer หรือหา Shift Level ใส่ไว้ด้วย

ไฟเลี้ยงจาก 3.3V Regulator ของ Node32s สามารถจ่ายกระแสได้ 600mA ตามสเป็คของ ESP ใช้กระแสสูงสุดถึง 250mA แต่เราวัดได้ 150mA  ซึ่งมากพอสำหรับงานอุปกรณ์จำพวก Mobile เพราะว่าใช้กระแสเยอะ แบตเตอรี่จะหมดเร็ว แต่ในกรณีที่มีความต้องการกระแสที่มากกว่านี้ แนะนำให้ ไฟ 3.3 V จากภายนอก ต่อเข้าขา “3V3”

สำหรับช่อง VIN สามารถ ขาสำหรับไฟเข้าได้ นอกจากทาง USB แต่รับไฟได้ไม่เกิน 6V นะครับ และช่อง VBATT สามารถนำไปต่อแบตเตอรี่ได้ หรือ นำไปจ่ายอุปกรณ์อื่น ที่ใช่ไฟแบต โดยตรงได้ สำหรับช่อง 3V3 สามารถรับไฟจากแหล่งข้างนอกโดยตรงได้ แต่ต้องอยู่ในช่วง 2.2V ถึง 3.6V  ช่องนี้ต่อตรงกับอุปกรณ์ภายในบอร์ด

ติดตั้ง ESP-IDF กับ node32s (esp32)

$
0
0

ESP-IDF คืออะไร

เป็นชุดคอมไพล์เลอร์ ESP32 ที่พัฒนาโดยบริษัท Espressif ผู้ที่ออกแบบ SOC ตัวนี้ขึ้นมา โดยในตอนแรกๆ เลยทาง Espressif เปิดตัว ESP-IDF ออกมาก่อน ซึ่งใน Arduino และ Platform IO เป็นตัวที่ตามมาที่หลังนะครับ และ ใช้ ESP-IDF นี้ล่ะที่เป็นตัวคอมไพล์โค๊ดเช่นกัน แต่เพิ่มเติมการเขียนโปรแกรมแบบ Arduino เข้าไป ซึ่งหมายความว่า ต้องรอคน เขียน Lib ขึ้นมาก่อน อาจจะใช้งานได้ทั้งหมด

ความน่าสนใจของ ESP-IDF คือ

  • ความสามารถ Code Optimism ได้ดีกว่า โดยใช้ sdkconfig
  • สามารถใช้งานส่วนใหม่ๆ ได้ก่อนใคร

วิธีติดตั้ง ESP-IDF บน Windows 10

ทาง Espressif ได้จัดเตรียม Toolchain และ MSYS32 สำหรับ ESP-IDF บน Windows ไว้ชื่อ msys32 ซึ่งรวมเครื่องมือสำหรับคอมไพล์ไว้แล้ว สำหรับคนที่กลัวว่าจะ ทำเองไม่ work แนะนำติดตั้ง msys32 ดีกว่า ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก https://github.com/espressif/esp-idf/blob/master/docs/windows-setup.rst

ขั้นตอน 1. การติดตั้ง

ดาวน์โหลด ESP-IDF และ Toolchain ได้ที่

https://dl.espressif.com/dl/esp32_win32_msys2_environment_and_toolchain-20160816.zip

แตกไฟล์ออกมา แล้ววางไปที่โฟลเดอร์ C:\msys32

รูปโฟลเดอร์ C:\msys32

  • home – โฟลเดอร์เริ่มต้นของยูสเซอร์ home/admin
  • msys2_shell.cmd – โปรแกรม msys32

ขั้นตอนที่ 2 ติดตั้ง esp-idf

ใน เครื่องมือนี้ จะได้ติดตั้ง msys32 เป็น bash command ที่รันบน windows ไว้ จึงทำให้เราใช้คำสั่งต่างๆ แบบระบบ Linux บน Windows ได้ครับ

ไปที่โฟลเดอร์ C:\msys32 คลิกขวาที่ msys2_shell.cmd แล้วคลิกซ้าย Run as administrator

รูป คลิกขวาที่ msys2_shell.cmd แล้วคลิกซ้าย Run as administrator

จากนั้นย้ายไปยัง ไดเรกทรอรี ที่ต้องการ Clone SDK โดยการพิมพ์คำสั่ง cd “C:/pathe/to/dir/” หรือพิมพ์ cd

จากนั้นพิมพ์คำสั่ง

git clone –recursive https://github.com/espressif/esp-idf.git

ดังภาพ

ขั้นตอนที่ 3 เริ่มต้นสร้าง Project

วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้นสร้างโปรเจค ให้ดาวน์โหลดจาก Github โดยวิธี เหมือนกันในขั้นตอนที่ 2 นะครับ แต่เรา clone ตัวอย่างโปรเจคมาแทน

พิมพ์คำสั่งว่า

git clone https://github.com/espressif/esp-idf-template.git

ดังภาพ

จากนั้น พิมพ์คำสั่ง “ls -l”

จะเห็นเรามี โฟลเดอร์ใหม่ดังภาพ

ข้อควรระวัง: esp-idf ไม่สนับสนุนให้มา ช่องว่าง (space) ใน PATH esp-idf

ขั้นตอนที่ 4 การตั้งค่าโปรเจค

เปิด MSYS2 Terminal โดยการรัน C:\msys32\msys2_shell.cmd จะเป็นการรัน Bash Shell ขึ้นมาบนวินโดว์

พิมพ์คำสั่ง เพื่อทำการตั้งค่า PATH ของ ESP-IDF ที่เราได้ติดตั้งไว้

export IDF_PATH=”C:/path/to/esp-idf”

ดังภาพ

ถ้าคุณไม่ต้องการพิมพ์คำสั่ง export ทุกครั้ง สามารถเอาคำสั่ง script export ไปใส่ในไดเรกทรอรี่ /etc/profile.d หรือ ใส่ใน .bashrc ก้อได้เช่นกัน

จากนั้นย้ายไปยังไดเรกทรอรีของโปรเจค พิมพ์คำสั่งว่า

Make menuconfig

จะขึ้นดังภาพ

หลังจากพิมพ์คำสั่ง menuconfig จะขึ้นหน้าต่างดังภาพ

  • ให้เลือก Serial flasher config ตั้งค่า Serial Port ให้ถูกต้อง แล้ว กด Save จะได้ SDKConfig

  • make app เพื่อคอมไพล์ แนะนำว่า เครื่องควรแรงๆนะครับ จะได้ไม่ต้องรอนานน ฮ่าๆ

ถ้า สำเร็จ ไม่เจอ error ใดๆ จะมาถึง บรรทัดสุดท้ายว่า เอาไป flash ได้ แต่เราสามารถ พิมพ์คำสั่ง make flash  สำหรับ Flash ลง Board

เอาล่ะครับ ใคร flash ได้ไม่มีปัญหา ลองเอาตัวอย่างอื่นๆ ของ esp32 ใน github มาลองครับ

https://github.com/espressif/esp-idf/tree/master/examples

มันยังมีตัวอย่างการใช้งานของ Bluetooth และ ทำให้ ESP32 เป็น เครื่องเล่นเกมส์อีก ที่ได้ลองประสิทธิ์ภาพ ที่เหนือล้ำกว่าบน Arduino มากนัก ซึ่งเดี่ยวจะมาแนะนำในตอนหน้าครับ

ติดตั้ง Node32s กับ PlatformIO

$
0
0

Platform IO เป็นแพ็คเกจเสริมการทำงานของ Editor ที่โด่งดังนั่นชื่อ Atom ทำให้สามารถเขียนโค้ดโปรแกรมลงบอร์ดทดลองได้หลากหลาย (Embedded Board) ทั้ง Arduino ,ESP8266, Rapberry PI จากที่เคยลองใช้ตอนเขียนโปรแกรมบน ESP8266 ประทับใจเรื่องความเร็วการคอมไพล์ และ การ flash ที่รวดเร็วกว่า Arduino มาก แต่ก้อเหมาะกับมือโปรแกรมเมอร์นะครับ และ ตอนนี้ Support ESP32 และ Node32s อีกด้วย จะรออะไรล่ะมาลองกัน

วิธีติดตั้ง Platform IO

  • เปิดบราวเซอร์ เข้าไปเวปที่ http://platformio.org คลิก IDE
  • คลิก [Download for Windows] เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ platformio-atom-windows.exe

รูปที่ 2 คลิก IDE > Download for Windows

  • ติดตั้งโปรแกรม โดยการดับเบิ้ลคลิก ที่ไฟล์ platformio-atom-windows.exe  รอจนกระทั่งได้หน้าจอ PlatformIO IDE: Installing…
    แล้วรอจน Atom เรียกแพ็คเกจ PlatformIO มาติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานพอสมควร

รูปที่ 3 รอจนโปรแกรมติดตั้งเสร็จ

  • เมื่อโปรแกรมติดตั้งเสร็จแล้ว จะขึ้นหน้าจอ Atom PlatformIO IDE has been successfully installed! คลิก Reload Now เพื่อเริ่มค่าใหม่ ดังรูป 4

รูปที่ 4 คลิก Reload Now

  • เปิดโปรแกรมอีกครั้ง หน้าจอ PlatformIO Home – Atom เห็นข้อความ Welcome to PlatformIO แสดงว่าคุณได้ติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

รูปที่ 5 หน้าจอ PlatformIO Home – Atom

ติดตั้ง LLVM

Platformio ใช้ LLVM เป็น Clang เพื่อทำให้การคอมไพล์ได้รวดเร็วมากขึ้น

  • ให้คุณเปิดบราวเซอร์ไปที่ http://llvm.org คลิก LLVM 3.9.0
  • จากนั้นคลิก Clang for Windows (64-bit) เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ LLVM-3.9.0-win64.exe

รูปที่ 6 ภาพแสดงหน้าเวป ให้คลิก LLVM 3.9.0

รูปที่ 7 คลิก Clang for Windows (64-bit)

  • ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ LLVM-3.9.0-win64.exe ที่คุณเพิ่งดาวน์โหลดมา จะได้หน้าจอ LLVM Setup ข้อความต้อนรับสู่การติดตั้ง ให้คลิก Next >
  • หน้าจอ LLVM Setup ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน LLVM เมื่อคุณอ่านเข้าใจแล้ว คลิก I Agree

รูปที่ 8 คลิก Next >

รูปที่ 9 คลิก I Agree

  • หน้าจอ LLVM Setup ตัวเลือกการติดตั้งให้คลิกวงกลมหน้า Add LLVM to the system PATH for all users เพื่อเพิ่มพาธของ LLVM ให้ทุกยูสเซอร์
    • Do not add LLVM to the system PATH – ไม่ต้องเพิ่มพาธของ LLVM
    • Add LLVM to the system PATH for all users – เพิ่มพาธให้ทุกยูสเซอร์
    • Add LLVM to the system PATH for current user – เพิ่มพาธให้เฉพาะยูสเซอร์นี้
    • Create LLVM Desktop Icon – สร้างไอคอน LLVM บนเดสก์ทอป

รูปที่ 10 คลิก Add LLVM > Next >

  • แล้วคลิก Next >
  • หน้าจอ LLVM Setup เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บ LLVM (หากต้องการเปลี่ยนคลิก Browse…) แล้วคลิก Next >

รูปที่ 11 คลิก Next >

  • หน้าจอ LLVM Setup เพื่อเลือกสร้างเมนู LLVM ในเมนูสตาร์ท ในที่นี้เลือกเป็น LLVM แล้วคลิก Install ดังรูป 12 แล้วรอจนโปรแกรมติดตั้งเสร็จ ดังรูป 13

รูปที่ 12 คลิก Install

รูปที่ 13 รอสักครู่

  • หน้าจอ cmd ให้กดคีย์ Enter (หรือกดคีย์ใดคีย์หนึ่งบนแป้นพิมพ์ก็ได้)
  • หน้าจอ LLVM Setup ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คุณ Finish

รูปที่ 14 กดคีย์ Enter

รูปที่ 15 คลิก Finish

ข้อแนะนำ เมื่อติดตั้งทั้ง 2 โปรแกรมอันได้แก่ Atom PlatformIO, LLVM และตั้งค่าต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณควรจะ Restart คอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์เริ่มค่าใหม่ได้อย่างถูกต้อง

 

Hello world

มาลองสร้างโปรเจคบน PlatformIO กันบ้างครับ ขั้นตอนง่ายๆนะครับ แค่ คลิก New Project เราเริ่มต้นกับ โค้ดโปรแกรมสั้นๆ เรียกขวัญและกำลังใจกันก่อนครับ แค่ 6 บรรทัด เพื่อแสดงข้อความที่อยู่ในคำสั่ง printf ข้อความในที่นี้คือ พิมพ์ Hello world ออกทางหน้าจอ Serial Monitor

<1> ที่หน้าจอ PlatformIO Home ให้คุณคลิก New Project เพื่อสร้างโครงการใหม่

(โน๊ต: คุณสามารถคลิกเมนู PlatformIO > Home Screen เพื่อมาหน้าจอ PlatformIO Home)

รูปที่ 16 คลิก New Project

<2.> ในช่อง Select board: เลือกบอร์ดเป็น Espressif ESP32 Dev Module หรือ ตอนนี้ เลือกบอร์ด Ayarafun Node32s ได้เลยครับ

<3> ในช่อง Choose the directory: เลือกโฟลเดอร์เป็น C:\Users\admin\Documents\atom\helloworld

<4> เมื่อคุณเลือกบอร์ด และโฟลเดอร์ที่เก็บโค้ด ที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ให้คลิก Process

รูปที่ 17 คลิก Process

หรือจะ คลิก Node32s ได้นะครับ

<5> จะได้โฟลเดอร์ helloworld ขึ้นทางด้านซ้ายมือ จากนั้นคลิกขวาที่ src แล้วคลิกซ้ายที่ New File

<6> จะมีช่อง Enter the path for the new file. ให้พิมพ์ชื่อไฟล์ src\hello_world.c แล้วกดคีย์ Enter

รูปที่ 18 คลิกขวา src > คลิกซ้าย New File

รูปที่ 19 พิมพ์ชื่อไฟล์ แล้วกดคีย์ Enter

<7> จะได้หน้าจอ hello_world.c ให้พิมพ์โค้ดข้างล่างนี้ลงไป

View the code on Gist.

<8> เมื่อคุณพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกปุ่ม Serial Monitor

<9> ในช่อง Port ให้เลือกพอร์ตที่บอร์ดของคุณเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ในที่นี้คือ พอร์ต COM5

<10> ในช่อง Baudrate ให้เลือกที่ 115200

<11> คลิกปุ่ม Start

(โน๊ต: ปกติโปรแกรม PlatformIO จะเลือกพอร์ตกับ baudrate ให้คุณแล้วโดยอัตโนมัติ)

รูปที่ 20 พิมพ์โค้ด

รูปที่ 21 เลือกพอร์ตและ baudrate

<12> คลิกปุ่ม Upload

<13> คลิกปุ่ม Save and build เพื่อบันทึกโค้ด และอัปโหลดโค้ดลงบอร์ด Node32s

รูปที่ 22 คลิก Upload > Save and build

<14 > กรุณารอจนกว่าโปรแกรมอัปโหลดเสร็จเรียบร้อย แล้วโปรแกรมจะแสดงข้อความที่อยู่ในคำสั่ง printf ออกมาทางหน้าจอ Serial Monitor ในที่นี้แสดงข้อความ Hello world ออกทางหน้าจอ Serial Monitor ดังรูป 23

รูปที่ 23 แสดงข้อความ Hello world ออกทางหน้าจอ

การเขียนโปรแกรมบน PlatformIO แบบ Arduino

โค้ดโปรแกรมเขียนเหมือน Arduino IDE ทุกประการ แต่ต้องเพิ่ม #include “Arduino.h” ในบรรทัดแรก

  • คลิกปุ่ม Initialze or Update PlatformIO Project เพื่อสร้างโครงการใหม่ จากนั้นเลือกบอร์ดและโฟลเดอร์ที่ต้องการ

รูปที่ 24 สร้าง project ใหม่

รูปที่ 25 เลือกบอร์ดและโฟลเดอร์

  • สร้างไฟล์ใหม่ชื่อ blink_wiring.cpp แล้วพิมพ์โค้ดข้างล่างนี้ (นามสกุลของไฟล์ต้องเป็น .cpp นะครับ) แล้วอัปโหลดเข้า Node32s จะเห็นว่าไฟบนบอร์ดจะกระพริบ จากนั้นลองเปลี่ยนตัวเลข delay เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง

View the code on Gist.

รูปที่ 26 โค้ดโปรแกรมลง Node32s

การเขียนโปรแกรม แบบ ESP-IDF

ข้อดีอย่างหนึ่งในการเขียนโปรแกรมบน Platform IO คือ เราสามารถทดสอบโปรเจคได้ทั้งแบบ Arduino และ ESP-IDF โดยใน ESP-IDF จะมีตัวอย่างการใช้งาน Hardware ที่เยอะ คุณสามารถเปิดไฟล์ตัวอย่างขึ้นเพื่อมาศึกษาได้นะครับ แต่โค้ดตัวอย่างนี้ยังเป็น beta อยู่ อาจต้องมีการปรับแก้โค้ดบางส่วน เพื่อให้โค้ดโปรแกรมสามารถทำงานได้ ในหัวข้อนี้จะนำไฟล์ตัวอย่าง hello world มาโค้ดโปรแกรมลง Node32s

  • เปิดบราวเซอร์ไปที่ https://github.com/espressif/esp-idf/tree/master/examples คุณจะเห็นตัวอย่างโค้ด esp-idf ในที่นี้มี 12 ตัวอย่าง แต่เพื่อไม่ให้หนังสือเล่มนี้มีขนาดหนามาก ผู้เขียนจะโค้ดโปรแกรม 01_hello_world เพียงโปรแกรมเดียวเท่านั้น

รูปที่ 27 ไฟล์ตัวอย่างทั้งหมด

  • 01_hello_world แล้วคลิก main แล้วคลิก hello_world_main.c คุณจะเห็นโค้ดโปรแกรม ให้คลิกปุ่ม Raw เพื่อแสดงโค้ด จากนั้นให้คัดลอกโค้ดทั้งหมด

รูปที่ 28 คัดลอกไฟล์ตัวอย่าง hello_world_main.c

  • ให้สร้างโปรเจ็คใหม่ สร้างไฟล์ชื่อ hello_world_main.c แล้ววางโค้ดที่คุณคัดลอกไว้ลงในไฟล์นี้  เนื่องจากยังเป็นโค้ดตัวอย่างทดลอง ให้คุณคอมเม้นต์ // บรรทัดที่ 24 เป็น //esp_restart(); ดังรูป 29 จากนั้นอัปโหลดลง Node32s จะเห็นมีข้อความ Restarting in 9 – 0 second… แล้ว cpu ก็หยุดทำงาน

รูปที่ 29 ผลลัพธ์ที่ได้จากการโค้ดโปรแกรม hello_world_main.c

ฝากไว้เป็นอีกตัวเลือกนะครับ ที่ผมประทับใจกับ Platform IO นะครับ คือการทำงานที่รวดเร็วกว่า และ UI ดูทันสมัย ดูเป็น มืออาชีพ ขึ้นอีกที่นิดหนึ่ง เดี่ยวเจอกัน ในรอบหน้านะครับ จะหาอะไรสนุกๆมา update

Node32s และ NodeWifi สำหรับ Fritzing

$
0
0

เอาใจคนใช้ Fritzing กันหน่อยนะครับ ตอนนี้ทางผมได้ทำ Node32s และ NodeWifi ในเวอร์ชั่น Fritzing ให้แล้วครับ เอาไปใช้ทำภาพประกอบ ทำโปรเจค Workshop กันได้เลยครับ

ตามไปโหลดได้ที่  Github

รู้จักกับ NodeWIFI

$
0
0

Internet of Things เป็น แนวคิดที่ว่าต่อไปเราจะมีเครือข่ายของทุกสรรพสิ่ง พวกมันจะสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ทได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ทีวี ตู้เย็น หลอดไฟ ปลั้กไฟ จะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และ เราจะสามารถจะควบคุม จากที่ไหน ก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะทำให้ชีวิตสะดวก สบายมากขึ้น และ ใช้ทรัพยกรได้อย่างมีประสิทธิ์

ไอเดียน่าจะเป็นจริงได้ อุปกรณ์และเซ็นเซอร์จำนวนมาก ต้องถูกเชื่อมต่อเข้ากับเน็ท ซึ่งหมายถึง อุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อต้องมีราคาที่ถูกมาก และ เครือข่ายอินเตอร์เน็ท กระจายอยู่ทุกมุมโลกอีกด้วย ที่ผ่านมา เราได้รู้จักบอร์ดที่มีการเชื่อมกับ wifi ได้หลายตัวกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น esp8266 ,NodeMCU และ ล่าสุดที่เป็นโปรดักส์ของทางเรา เป็น Node32s ในตอนนี้ทางเราภูมิใจเสนอ น้องใหม่ตัวเล็ก อย่าง NodeWIFI

รู้จักกับ Node-WIFI

Node-WIFI เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกุล อย่าง ESP8285 ของบริษัท Espressif มาออกแบบเป็นบอร์ดพัฒนา โดย ESP8285 คือไอซี ESP8266 ที่เพิ่ม flash memory เข้าไปใน chip เลย ยังคงความสามารถเดียวกับ ESP8266 แต่ ขนาดวงจรเล็กกว่า และ ยังใช้ Arduino เขียนโปรแกรมได้ด้วย ซึ่งตัวอย่างของ ESP8266 กับการประยุกต์งาน IoT เยอะมาก ทั้งในและนอกประเทศ

ภาพรวมของ NodeWIFI(ESP8285)

  • ใช้ ESP8285 จาก Espressif ซึ่งเป็น WiFi
  • Breadboard Friendly มีขนาดกว้าง 0.9″ วางบน breadboard จะเหลือข้างล่ะ 1 ช่อง
  • ใช้ USB2Serial ตระกุล FTDI ชิปเพื่อการโหลดโปรแกรมแบบอัตโนมัติ ความเร็วสูงสุดถึง 921000
  • JST 2mm Connector สำหรับเสียบแบตเตอรี่
  • มีวงจรชาร์จ Lithium Ion และ Lithium Polymer (1 cell) พร้อมทั้งไฟแสดงสถานะ
  • มีวงจร PTC Fuse ตัดกระแสไฟเกินที่ 500mA
  • 3.3V 600mA On-board Voltage Regulator
  • Push ฺButton Switch ที่ขา IO0 และ EN (Reset)
  • เหมาะสำหรับงาน พัฒนาต้นแบบ อุปกรณ์รูปแบบ Portable และ Wearable

สำหรับ ESP-8285 ทำอะไรได้บ้าง

  • หน่วยประมวลผล Tensilica LX6
  • ความเร็ว สูงสุด 240MHz
  • แรมภายใน 52kB
  • WiFi transceiver B/G/N
  • ช่วงไฟ 2.2 ถึง  3.6V กินกระแสประมาณ 200mA
  • กินกระแส 2.5 µA (ในสถานะ deep sleep)
  • 15 GPIO
  • 1 ช่อง Analog-to-Digital converter (ADC)

สิ่งที่ต่างแตกจาก NodeWIFI(ESP8285) กับ ESP8266 ทั่วไป

  • ESP8285 เป็น SOC ที่ buildin FLASH 1MB เข้าไปด้วย ทำให้ไม่ต้องต่อ FLASH ภายนอก
  • NodeWIFI มี GPIO มากกว่า บอร์ด ESP8266 จำนวน 5 ขา เนื่องจากได้ I/O บางส่วนที่ไม่ต้องต่อ FLASH
  • ตัวโมดุลจะมีขา ส่วนมากที่เข้ากับ Node32s ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณเอาบอร์ดนี้ไปทำโปรเจค อยากเปลี่ยนไปอีกบอร์ด ก็ทำได้เลย
  • โมดุลนี้ รวมวงจร charge แบตตอรี่ เข้าไปแล้ว ทำใช้งาน portable ได้สะดวกมากๆ

ภาพแสดง PIN ที่ NodeWIFI และ Node32S เรียงเหมือนกัน

บอร์ด NodeWIFI จึงได้ความสามารถของ ESP8266 นั้นล่ะครับ แต่เราเพิ่มเติมเรื่องการใช้งานแบบไร้สายเป็นหลัก เราจึงได้ออกแบบอุปกรณ์ภายใน บอร์ดให้ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ได้ และ มีวงจรชาร์จไฟแบตเตอรี Lipo เข้าไปอีกด้วย และ รวมกับ Community ของ ESP8266 เดิมที่ทำมาหลายปี ทำให้ เราใช้บอร์ด NodeWIF ทำโปรเจค IOT ได้ ไม่จำกัดอีกต่อไป

 

Powering the NodeWIFI

แหล่งพลังงานของ NodeWIFI ได้มาจากสองแหล่ง คือ USB และ แบตเตอรี่ (LiPo) ถ้าจ่ายทั้งสองแหล่ง บอร์ดจะใช้ไฟจาก USB และ ชาร์ทไฟ LiPo ไปด้วยในตัว ด้วยกระแสประมาณ 400mA ซึ่งเป็นแรงดันที่ไม่ทำให้ช่องจ่ายไฟ USB อันตราย (เราสามารถออกแบบชาร์จกระแสได้สูงกว่านี้ แต่ USB ของคอมท่านอาจจะจ่ายไม่ไหวนะครับ)

เราสามารถสลับไฟจาก USB กับ Batt ได้ทันที่ เราถอดสาย USB บอร์ดจะสลับไปใช้ไฟแบต ทันที่ แล้วต่อแบตอีกครั้งจะกลับไปใช้ไฟ USB

NodeWIFI  ทำงานช่วงไฟเลี้ยง 2.2 ถึง 3.6V. โดยปกติจะจ่ายไฟ 3.3V, และ I/O ของ ESP8285ไม่สามารถใช้ไฟ 5V ได้ (5V tolerant) เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยควรมีไอซีเป็น Buffer หรือหา Shift Level ใส่ไว้ด้วย

ไฟเลี้ยงจาก 3.3V Regulator ของ Node-WIFI สามารถจ่ายกระแสได้ 600mA ตามสเป็คของ ESP ใช้กระแสสูงสุดถึง 250mA แต่เราวัดได้ 150mA  ซึ่งมากพอสำหรับงานอุปกรณ์จำพวก Mobile เพราะว่าใช้กระแสเยอะ แบตเตอรี่จะหมดเร็ว แต่ในกรณีที่มีความต้องการกระแสที่มากกว่านี้ แนะนำให้ ไฟ 3.3 V จากภายนอก ต่อเข้าขา “3V3”

สำหรับช่อง VIN สามารถ ขาสำหรับไฟเข้าได้ นอกจากทาง USB แต่รับไฟได้ไม่เกิน 6V นะครับ และช่อง VBATT สามารถนำไปต่อแบตเตอรี่ได้ หรือ นำไปจ่ายอุปกรณ์อื่น ที่ใช่ไฟแบต โดยตรงได้ สำหรับช่อง 3V3 สามารถรับไฟจากแหล่งข้างนอกโดยตรงได้ แต่ต้องอยู่ในช่วง 2.2V ถึง 3.6V  ช่องนี้ต่อตรงกับอุปกรณ์ภายในบอร์ด


การติดตั้ง NodeWIFI กับ ArduinoIDE

$
0
0

สำหรับใครที่ยังไม่เคยเล่นไมโครคอนโทรลเลอร์มาก่อนเลย หรือแม้แต่ Arduino ให้ทำการติดตั้งโปรแกรม Arduino IDE ลงไปก่อน โดยเข้าไปกดติดตั้งได้ฟรีที่ https://www.arduino.cc/en/Main/Software  เราสามารถศึกษาเริ่มต้นการใช้งาน Arduinoได้จากชุด library ที่ติดมากับโปรแกรมได้

สำหรับ Arduino ในขั้นตอนแรกเราต้องปรับแต่งให้ Arduino IDE มีบอร์ด ESP8266 Core สักก่อนครับ เนื่องจาก NodeWIFI ใช้ ESP8285 ซึ่งไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ใช้ core cpu จาก Tensilica ไม่สามารถใช้คอมไพล์เลอร์ร่วมกับ AVR และ ARM ไม่ได้ครับ แต่ทาง Espressif ได้คอมไพล์เลอร์ไว้ให้เราแล้ว สำหรับติดตั้ง NodeWIFI บน Arduino ในตอนนี้ที่จะแนะนำ มี 2 วิธีนะครับ โดยทางผมอ้างอิงจาก Github ของ Arduino ESP8266 เองเลยครับ

วิธีการติดตั้งผ่าน Board Manager

หลังจากนั้น ให้ copy ลิงค์นี้ http://arduino.esp8266.com/package_esp8266com_index.json ไปวางในช่องของ Additional Boards Manager URLs

จากนั้นให้เลือก Tools > Board”xxxx” > Boards manager…

เมื่อเราเลือก Boads Manager เรียบร้อยแล้ว จะปรากฏหน้าต่างแบบนี้ มันจะทำการโหลดสักครู่ หา Package ชื่อ ESP8266 แล้วกด Install

เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ดูที่ Board จะมีบอร์ดจาก ESP8266 Modules

ข้อมูล ในเวอร์ชั่น 2.3.0 ที่ UPDATE ในวันที่ 23/06/2016 จากเอกสาร บอร์ด NodeWIFI จะยังไม่ได้บรรจุลงไปใน list แบบในภาพนะครับ เศร้าแป็บ เรามีวิธีง่ายๆ ใช้ไปก่อน  ให้เลือก Generic ESP8266 Module แล้วเลือก Config ตามภาพ ที่สำคัญ FlashMode เป็น “DOUT” กับ Reset Method เป็น “nodemcu”

 

หรือเข้าไปแก้ไข ไฟล์ชื่อ board.txt แล้วใส่ บอร์ดเขาไปเองแบบในภาพนี้ครับ

View the code on Gist.

วิธีการติดตั้งโดยใช้ Git

สำหรับการติดตั้ง Arduino IDE เวอร์ชั่น 1.6.4 ขึ้นไปนะครับ ไปที่ directiory ที่เก็บของ arduino ide ด้วยคำสั่ง cd… จากนั้นพิมพ์ คำสั่งตามภาพ

  1. cd hardware
  2. mkdir esp8266com
  3. cd esp8266com
  4. git clone https://github.com/esp8266/Arduino.git esp8266

 ติดตั้ง Tools พวก คอมไพล์เลอร์ กันต่อ ด้วยการพิมพ์
  1. cd esp8266/tools
  2. python get.py

จากนั้น Restart Arduino  หรือ เปิดโปรแกรม Arduino อีกครั้ง

ถ้าทำตามวิธีนี้ จะได้ตัว esp8266 ที่ใหม่ล่าสุด เพราะว่าเราเอามาจาก Github เลย โดยส่วนตัว ผมใช้วิธีติดตั้งจาก Git มากกว่านะครับ เพราะว่าจะได้เล่นอะไรใหม่ๆ กว่า

ทดลองตัวอย่างแรก

กดที่ File > Examples จะเห็นว่ามีตัวอย่างเพิ่มขึ้นมาจากของ ESP8266  ทีนี้เราลองมาทำตัวอย่างเล่นๆทดสอบการทำงานเริ่มต้นจากไฟล์ตัวอย่างโดยเลือกไปที่ File>Exmples > ESP8266WiFi > WiFiScan  แต่ก่อนที่เราจะเริ่ม upload ให้ทำการเลือก board และ port ให้ถูกต้องกับที่ต่ออยู่ก่อน

11

การทำงานหลักของโปรแกรมนี้จะทำการScan wifiทั้งหมดที่อยู่รอบๆ และบอกออกมาเป็นระยะความแรงของสัญญาณ โดยดูได้จากมุมขวาบนที่เป็นเครื่องหมายคล้ายแว่นขยาย คือปุ่ม Serial monitor จะได้ผลลัพธ์โปรแกรมดังรูป

9

นั่นคือแสดงว่าสัญญาณwifiที่มันสามารถมองเห็นได้มีอยู่ 5 อัน โดยตัวที่สัญญาณแรงสุดจะเป็นESP_A45762 กับ TRCC_AP253  ดูจากตัวเลขความแรงที่เขียน 53 กับ 56 ตามลำดับสังเกตว่าจะตรงกับตัวสัญญาณเน็ตที่เราต่ออยู่จริงๆบนคอมพิวเตอร์ของเรา และสัญญาณที่มีความแรงสุดๆขึ้นเต็ม 5 ขีดก็มีสองตัวแบบเดียวกับ NodeWIFI สแกนได้

10

สำหรับการใช้งาน NodeWIFI จะเหมือนกับ ESP8266 หรือ NodeMCU เลยครับ ถ้าจะตัวอย่างอื่นๆ ก็สามารถนำมาใช้งานกับ NodeWIFI ไดเช่นกัน

  1. เอาข้อมูล NodeWIFI ขึ้น Cloud ของ data.sparkfun.com
  2. NodeWIFI บันทึกข้อมูลเข้า Thingspeak
  3.  สนุกกับ Blynk

Internet of things Workshop สำหรับ ผู้เริ่มต้น โดยใช้ Node32s

$
0
0

รอบที่ 1 : วันเสาร์ที่ 15 กค.60  (12 คน) >> เปิดรับ

หลักสูตรฝึกอบรม Internet of things Workshop สำหรับ ผู้เริ่มต้น โดยใช้ Node32s และ NodeWifi เชื่อมต่อ กับ IoT Platform (ANTO, UBIDOTS) เน้นภาคปฏิบัติ และ ทฤษฏี เหมาะให้ผู้เข้า อบรมใช้งาน และ สร้างโปรเจค IoT ได้ ทันที่

โดย Node32s เป็นบอร์ดที่นำ SoC อย่าง ESP32 ของบริษัท Espressif มาออกแบบเป็นบอร์ดพัฒนา มันเป็นไมโครคอนโทรลเลอร์ที่มีราคาถูก และ มี WIFI และ Bluetooth 4.0 ติดมาด้วย แถมยังใช้ Arduino เขียนโปรแกรมได้ด้วย และที่สำคัญพัฒนาด้วยโปรแกรมคำสั่งภาษา Arduino ได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษา Arduino และคำสั่งภาษาซีพื้นฐานมาแล้ว

กำหนดการฝึกอบรม:

สถานที่อบรม: Home of Maker ฟอร์จูน ชั้น 4
จำนวนผู้เข้าอบรม:   12 ท่าน
ค่าลงทะเบียน: ราคา 2,300 บาท (ยังไม่รวม VAT 7%)
ราคาคอร์สนี้ รวมบอร์ด node32s plus

 

A: แนะนำ เกี่ยวกับ Internet of Thing

1: GETTING STARTED WITH THE Node32S

  • แนะนำบอร์ด NodeWifi ,Node32s , Nodemcu
  • การติดตั้ง Arduino IDE สำหรับ Arduino-ESP32
  • ทดลองเชื่อมต่อ Node32s กับ WIFI

2: FIRST PROJECTS WITH THE Node32S

  • ควบคุม LED ไฟกระพริบ
  • อ่านค่าปุ่มกด จาก GPIO

3: Sensing Real World:

  • อ่านค่า Sensor DHT22  
  • อ่านค่า อุณหภูมิ และ ความชิ้น

4: รู้จัก IoT Platform Ubidots

  • รู้จัก IoT Platform : Ubidots
  • เริ่มต้นใช้งาน (สมัครใช้งาน /ติดตั้งลง library)

5: CLOUD DATA LOGGING WITH THE Node32S

  • ความเข้าใจ Http (Post/Get)
  • บันทึกข้อมูล ลง Ubidots
  • แสดงผลผ่าน Widget

6: CONTROL DEVICES FROM ANYWHERE

  • ควบคุม LED จาก IoT Platform
  • ควบคุมอุณหภูมิ ผ่าน IoT Platform
  • ส่ง email แจ้งเตือน

7: รู้จัก IoT Platform ANTO

  • รู้จัก IoT Platform : Anto และ โปรเจคที่น่าสนใจ (smart farm , smart home)
  • เริ่มต้นใช้งาน (สมัครใช้งาน / ติดตั้งลง library)
  • แสดงผลการใช้งานผ่าน Dashboard

8: SENDING NOTIFICATIONS FROM THE ANTO

  • การใช้งานแจ้งเตือน (โปรเจคอ่านค่าอุณหภูมิแล้วแจ้งเตือน ผ่าน Line)

วิธีการลงทะเบียน:

  • กรอกแบบฟอร์ม การลงทะเบียน จะได้รับการตอบกลับทางอีเมล์ แจ้งรายละเอียดการชำระเงิน
    https://goo.gl/YFWnvk
  • เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมจำนวนมาก ทางเราจึงขอให้ท่านชำระเงินและแจ้งหลักฐานการโอนเงินให้ทราบ ภายใน 2 วัน (หากเกินกำหนดจะถือว่าท่านสละสิทธิ์ในการเข้าร่วมอบรมในรอบนั้น ทั้งนี้ท่านสามารถเลื่อนการเข้าอบรมไปในรอบถัดไปได้)
  • สอบถามข้อมูล เพิ่มเติม อีเมล์ sell@ayarafun.com หรือ โทรสอบถามรายละเอียดที่เบอร์ 080-599-0299

**รับจำนวนจำกัดเพียง 12 ที่เท่านั้น สำรองที่นั่งทางกล่องข้อความในเพจเท่านั้น

 

กรุณา ติดตั้ง arduino และ ESP32 ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้

การใช้งาน Node32s บน Arduino IDE

http://www.ayarafun.com/2016/11/basic-use-node32s-with-arduino-ide/

ติดตั้ง driver สำหรับ USB2Serial (WIndows/Mac)

http://www.ftdichip.com/FTDrivers.htm

วิธีติดตั้ง Node32s แบบง่ายกว่าเดิม

$
0
0

เอาล่ะครับ สำหรับคนที่ซื้อบอร์ดไป แล้วรู้สึกว่า บอร์ด Node32s ติดตั้งแบบเดิม ใช้งานยากไปนิด วันนี้จะมาแนะนำวิธีการติดตั้งอีกวิธีครับ ยังเป็น beta เพิ่งทดลองใช้นะครับ จริงๆ ทางผมรอให้ esp32 ทำให้เป็น official แต่รอมานานมาก เขายังไม่ดันออกมาสักที่ ตอนนี้ เราเจอปัญหา คนบ่นว่าติดตั้งยากจัง ซึ่งมันก้อจริงครับ งั้นก้อจัดไป 😀

ตั้งแต่ Arduino IDE 1.6.4 ขึ้นไป, Arduino อนุญาติให้เราติดตั้งบอร์ดพวก Third-party ได้ง่ายๆ ผ่าน  Board Manager มาดู 4 ขั้นตอนง่ายๆนะครับ โดยใน Arduino Board Manager

  • ติดตั้ง  Arduino 1.8.2+ (ขึ้นไป) จาก Arduino website.
  • เปิดโปรแกรม Arduino และ เปิด หน้าต่าง Preferences
  • เพิ่ม ”    http://www.ayarafun.com/download/package_node32s_index.json      ”
    เข้าไปในช่อง Additional Board Manager URLs เราสามารถเพิ่มได้หลายๆตัว โดยใช้ comma , ขั้นนะครับ
  • เปิด Board Manager รอ Update จะมีชื่อบอร์ด Node32s เพิ่มมาให้ ให้เรากดติดตั้ง แค่นี้ package ต่างๆ จะติดตั้งให้เองแล้วครับ

 

  • การใช้งานก้ออย่าลืมเปลี่ยนบอร์ดเป็น Node32s ล่ะครับ

 

 

แนะนำบอร์ด Lamloei 32 Lite กับ การใช้งานบน Arduino แบบเบื้องต้น

$
0
0

เข้าสู่ยุค Digital Transformation ที่ใครมีสามารถควบคุม กับ ใช้ประโยชน์จาก Data ได้มากกว่าจะมีต่ำทุน บริหาร และ ทรัพยากรได้ดีกว่า ซึ่งส่วนประกอบหนึ่งที่จะช่วย เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็น Digital ได้นั้น ต้องมี Hardware สมองกล อย่าง internet of things (IoT) เข้าเป็นส่วนประกอบ

โดย Hardware สมองกลที่เป็นที่นิยมในระดับต้นๆของโลก จะมี ESP8266 และ ESP32 ซึ่งมี นักพัฒนาชาว Open Source จำนวนมาก และ ยังพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง มีการพอร์ตไปทำงานหลาย platform ไม่ว่าจะเป็น Arduino,  ESP-IDF , microPython , Javascript และ ภาษา Lua และ ยังนำไปใช้ในโปรดักส์พวก smart home อีกมากมาย จึงเป็นเหตุผลหลักที่นำ ESP32 มาเป็นแกนประมวลผลหลัก

โดย Lamloei  Node32 Lite เป็นผลงานระดับที่ 4 แล้ว โดยเราเลือกอุปกรณ์บนบอร์ดที่ถูกลง แต่คุณภาพโดยรวมยังเท่าเดิม เพื่อให้เหมาะกับการนำไปประยุกต์ ใช้งาน โดยทุกตัวของ Node32 จะมี Pinout ที่เรียงเหมือนกัน สามารถทดแทนกันได้เลย

Lamloei Node32 Lite เป็นบอร์ดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ใช้แกนประมวลผลแบบ dual core ที่รองรับการเชื่อมต่อ WIFI และมี BT4.0 (Bluetooth Low-energy, ,BT4.0, ibeacon) เข้าไปด้วย มี GPIO ไปถึง 30 I/O ที่ทำงานได้ หลาย function ไม่ว่าจะเป็น ADC, DAC, I2C ,SPI

บอร์ด Lamloei 32 Lite ถูกออกแบบสำหรับ การทดลองกับ Protoboard หรือ Breadboard จึงออกแบบให้บอร์ดกว้าง 0.9″ ทำให้มีช่องว่างเหลือบน breadboard ข้างล่ะ 1 ช่อง เลือกใช้ FTDI เป็นไอชี USB2Serial ที่ Driver มีปัญหากับเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยที่สุด รันได้ทั้ง macOS/Windows/Linux และปลอดภัยด้วยวงจร PTC Fuse ตัดกระแสไฟเกินที่ 500mA

ตอนนี้สนใจ อยากได้สั่งที่ไหน ใช่ไหมครับ ทางเราร่วมกับ บริษัท Gravitech เป็น บ.ผลิต และ จัดจำหน่าย เชิญ คลิกสั่งซื้อได้ที่นี้เลยครับ ไม่ต้องรอนาน ราคาเพียง 275 บาท
https://www.gravitechthai.com/product_detail.php?d=3318

ภาพรวมของ Lamloei 32 Lite

  • ใช้ ESP32-WROOM-32 จาก Espressif ซึ่งรับรอง WiFi/BLE
  • Breadboard Friendly มีขนาดกว้าง 0.9″ วางบน breadboard จะเหลือข้างล่ะ 1 ช่อง
  • ใช้ USB2Serial ตระกุล FTDI ชิปเพื่อการโหลดโปรแกรมแบบอัตโนมัติ ความเร็วสูงสุดถึง 921000
  • มีวงจร PTC Fuse ตัดกระแสไฟเกินที่ 500mA
  • 3.3V 600mA On-board Voltage Regulator
  • Push ฺButton Switch ที่ขา IO0 และ EN (Reset)
  • ESP32 หน่วยประมวลผลสองแกน Tensilica LX6 ความเร็ว สูงสุด 240MHz แรมภายใน 520kB
  • WiFi transceiver B/G/N
  • Bluetooth  Dual-mode classic และ BLE
  • กินกระแส 2.5 µA (ในสถานะ deep sleep)
    • 10 ช่อง Capacitive Touch
    • 18 ช่อง Analog-to-Digital converter (ADC)
    • 3 ช่อง ของ SPI อินเตอร์เฟส
    • 3 ช่อง ของ UART อินเตอร์เฟส
    • 2 ช่อง ของ I2C อินเตอร์เฟส
    • 16 ช่อง ของ PWM32 GPIO ที่มีความสามารถ
    • 2 ช่อง ของ Digital-to-Analog Converters (DAC)
    • 2 ช่อง I2S อินเตอร์เฟส
    • Hardware Accelerated Encryption (AES, SHA2, ECC, RSA-4096)
ESP32_Pinout_a1_3
 สถาปัตยกรรมของ ESP32

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้นั้นมีจำกัด แต่จินตนาการมีอยู่ทุกที่รอบตัวเรา

แจก Slide ติดตั้ง Node32Lite บน Arduino IDE

เครื่องมือสำหรับการพัฒนา Software ตอนนี้ ขอแนะนำการใช้งานหลักผ่าน Arduino IDE ก่อนนะครับ เนื่องเป็น platform ที่นิยมมากที่สุดก่อน
ตั้งแต่ Arduino IDE 1.6.4 ขึ้นไป, Arduino อนุญาติให้เราติดตั้งบอร์ดพวก Third-party ได้ง่ายๆ ผ่าน  Board Manager มาดูขั้นตอน ผ่าน slide ของเราเลยนะครับ

slide การติดตั้ง Arduino IDE -> https://goo.gl/HXKhPz

การติดตั้ง profile ESP32 บน Arduino IDE

ติดตั้ง  Arduino  เวอร์ชั่นล่าสุดจาก Arduino website.

  1. เมนู File > คลิก Preferences

2. เพิ่ม ” https://dl.espressif.com/dl/package_esp32_index.json “
เข้าไปในช่อง Additional Board Manager URLs เราสามารถเพิ่มได้หลายๆตัว โดยใช้ comma , ขั้นนะครับ

3. จากนั้นคลิกที่ Tools เลือกเข้า Menu Boards Manager เพิ่ม Install ESP32 เพิ่ม

4. เราจะได้ ESP32 เข้ามาใน Platform Arduino ซึ่งวิธีการ ใช้งาน เลือกบอร์ด Node32s ใน ESP32 จากนั้นลองตั้งค่า Baudrate ที่ 921600 ตอนนี้ Arduino IDE น่าจะพร้อมใช้งานแล้วครับ

ตอนนี้ Node32Lite พร้อมทำงานแล้ว ลองตัวอย่างใน EXAMPLE จะเป็น wifiscan หรือ blink ทดสอบ ก่อนก็ได้ครับ รอบหน้ามาเจอกันการลงรายละเอียด การใช้งานต่อไปนะครับ

โพสนี้จะรวบรวมทุก Resource ไฟล์ของ Node32-Lite

$
0
0

แจกทุก Resource ไฟล์ของ Lamloei32Lite

1. Lamloei32Lite Pinout

Lamloei32Lite Pinout

2. Artwork สำหรับทำบทความ

ไฟล์กราฟฟิก
บอร์ด Lamoei32Lite

3. แจก Slide ติดตั้ง Node32Lite บน Arduino IDE

ตั้งแต่ Arduino IDE 1.6.4 ขึ้นไป, Arduino อนุญาติให้เราติดตั้งบอร์ดพวก Third-party ได้ง่ายๆ ผ่าน  Board Manager มาดูขั้นตอน ผ่าน slide ของเราเลยนะครับ

slide การติดตั้ง Arduino IDE -> https://goo.gl/HXKhPz

4. ไฟล์วงจร Eagle

ไฟล์ PDF โหลดได้ที่นี่

5. ไฟล์วงจร Fritzing

Node32-Lite

ไฟล์เก็บใน Github แก้ไขอะไรได้ กรุณาช่วยด้วยนะครับ
https://github.com/prasertsakd/Fritzing-part-node32s

อยากได้ อะไร เพิ่มเติม แจ้งได้นะครับ ทางเรารับฟัง และ รีบจัดการให้ครับ

 

Viewing all 60 articles
Browse latest View live